คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

2551-07-16

ภัยสุขภาพที่ระบาดในหมู่คนทำงานยุคดิจิตอล

ใช้เวลาสำรวจตัวคุณเองสักนิดว่าจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อภัยสุขภาพในยุคสังคมดิจิตอลนี้หรือไม่ คุณเป็นผู้หนึ่งที่มักจะปฏิบัติงานโดยอยู่ในอิริยาบถเดิมๆ นานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน คุณเป็นผู้หนึ่งที่นั่งทำงานอยู่กับตัวเลขนานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน คุณเป็นผู้หนึ่งที่ต้องนั่งตรวจและเขียนเอกสารนานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน คุณเป็นผู้หนึ่งที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการทำงานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันขณะที่คุณกำลังอ่านและสำรวจตัวเองอยู่นี้ หากหนึ่งในสี่ข้อข้างต้นตรงกับพฤติกรรมประจำวันของคุณแล้ว คุณนับเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงที่กำลังถูกคุกคามจากภัยร้ายในสำนักงานนั่นเอง
ข้อมูลล่าสุดจัดทำโดยศูนย์ศึกษาและวิจัยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระหว่างเดือนมกราคม 255 1 ที่ผ่านมานี้ การสำรวจอาการปวดในกลุ่มตัวอย่างคนทำงานออฟฟิศ หญิงและชาย ในจำนวน 413 คน (ชาย 183 คน หญิง 230 คน) พบว่า ส่วนใหญ่ทำงานเฉลี่ยเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน และใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงานมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ผลการศึกษา แสดงถึงอาการปวดที่เป็นกันมากที่สุด ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา 5 อันดับแรกคือ การปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง ปวดเอว และปวดศรีษะ ตามลำดับ โดยอาการปวดคอ มีมากถึง 84% และ ตามด้วยอาการปวดไหล่ 71%อาการปวดบริเวณกล้ามเนื้อ คอและไหล่ที่กำลังคุกคามกลุ่มคนทำงานออฟฟิศเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ทั้งจากพฤติกรรม อิริยาบถในการทำงาน ลักษณะและสภาพแวดล้อมบริเวณเวิร์ค สเตชั่น รวมไปถึงความเครียดจากการทำงาน หรือทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะอาการดังกล่าวอาจทวีความรุนแรงจนนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เกิดเป็นโรคประจำทศวรรษที่ได้ยินกันจนชินหูว่า “Office Syndrome หรือโรคภัยในสถานที่ทำงาน” นั่นเอง สำหรับวิธีการป้องกันและรักษาอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณคอและไหล่นั้น สามารถทำได้หลากหลายวิธีตามแต่สาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเวิร์ค สเตชั่นให้เหมาะสม เปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานหรือเคลื่อนไหวร่างกายทุก 15-20 นาที ขจัดความเครียดในการทำงาน เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ การนวด การใช้ความร้อน-เย็นเพื่อให้กล้ามเนื้อยึดหดตัว การออกกำลังกายแบบง่ายๆ ในท่าทางต่างๆ หรืออีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลาและต้องการความสะดวก คือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อที่พัฒนาให้เหมาะสำหรับการบรรเทาปวดบริเวณคอและไหล่ เป็นต้น ดูแลใส่ใจตัวเองสักนิด เพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี อย่าให้อาการปวดคอและไหล่แปรสภาพไปเป็นปัญหาที่อาจส่งผลกับสุขภาพ และประสิทธิภาพในการทำงาน

14 ความคิดเห็น:

natty กล่าวว่า...

นัทเห็นด้วยค่ะ เพราะตัวเองก้อมีปัญหาดังกล่าว ต้องไปนวดทุกอาทิตย์เลยค่ะ

ภิญญดา บ้าน818 กล่าวว่า...

**เรื่องนี้จริงทีเดียว ขณะนี้นั่งมา 4 ช.มแล้วรู้สึกเมื่อยปวดต้นคอ เดี๋ยวจะไปหาขนมกินแก้ปวดหน่อย ก๊าบๆๆ**

Peraporn C. กล่าวว่า...

*** น่าจะเปิดธุรกิจ "พิมพ์ไปนวดไป" บริการถึงสำนักงาน นายจ้างที่อยากให้สวัสดิการพนักงานมีบริการแบบ In house ถ้ากิจการดีอาจขยายฐาน At home ด้วยก็ได้ครับ....

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นั่งนานๆ ปวดเมื่อยจริงๆด้วย
ควรเปลี่ยน อริยาบถ จะได้ไม่เบื่อด้วยนะ

TripTourTeam กล่าวว่า...

แหมมม อาจารย์ ถ้าพิมพ์ไปนวดไปกลัวว่าจะไม่ได้พิมพ์ซิคะ อยากจะให้นวดอย่างเดียว ^_^
แต่นั่งนานๆ ก็เมื่อยจริงๆแหละค่ะ ทั้งคอทั้งไหล่แล้วก็หลังด้วย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ได้แนวธุรกิจใหม่อีก

อาจารย์ท่านไอเดียสุดยอดจริงๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

คอตึงบ่อยๆพักนี้ สบัดทีก๊อกแก๊ก เมื่อยลงหลัง
ล้าไปหมด

Be My Guest กล่าวว่า...

ต้องทำตามที่แนะนำซะแย้ว... ถูกเผงเลย! ปวดเมื่อยไปหมด

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขนาดเรียนยังเมื่อยเลยค่ะ 555

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนไม่อ่านก็ไม่เมื่อยนะคะ
แต่พออ่านแล้ว เมื่อยจัง

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ก็เมื่อยอะนะ ทั้งคอทั้งไหล่แล้วก็หลังด้วย
แต่ก็ต้องนั่ง วันนึงหลายชม

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

นั่งนานๆเนี่ย ไม่ใช่เมื่อยอย่างเดียวนะ
ขาบวมอีก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ตอนที่ยังไม่อ่านก็ไม่เมื่อยหรอก
พออ่านเข้าหน่อยล่ะเมื่อยเลย

kokkai-25 กล่าวว่า...

เราก็เป็นอีกคนหนึ่งนะที่ปวดคอ,ปวดหลังและไหล่มากๆเลย ก็อาศัยไปนวดแผนไทยบ้างผ่อนคลายดีสบายจังลองดูนะแต่ถ้าใครไม่ชอบก็หาวิธีบริหารคอและไหล่มาใช้ก็ช่วยได้เหมือนกัน

มีเรื่องชวนขนลุกมาฝากค่ะ บรื๋อออ...

มีเรื่องชวนขนลุกมาฝากค่ะ บรื๋อออ...
คลิ๊กที่ข้อความเพื่อดูภาพจะๆ

ทีมอัพเดตบล็อก