แม้ว่าชีวิตมนุษย์จะหลีกเลี่ยงโรคภัยไข้เจ็บหรือความเสื่อมของร่างกายไม่ได้ แต่สามารถปรับปรุงชีวิตให้อยู่อย่างมีความสุข โดยการหาวิธีรับมือกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องดูแลภาพลักษณ์ภายนอกให้ดูดีพร้อมๆ กับการฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับสุขภาพในอนาคต
20-29 วัยแห่งการบั่นทอนสุขภาพ
เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างชีวิตวัยเรียนและชีวิตการทำงาน สาวๆ วัยนี้จึงเต็มไปด้วยพลังงานและความกระตือรือร้นต่อสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ รอบตัว จึงไม่น่าแปลกที่การดำเนินชีวิตจะค่อนข้างสมบุกสมบัน เช่น การอ่านหนังสือเรียนจนดึกดื่น การทำงานอย่างเคร่งเครียดไม่มีเวลาพักผ่อน หรือแม้กระทั่งร่วมฉลองทุกสุดสัปดาห์กับเพื่อนๆ ด้วยการดื่มและท่องราตรี แม้จะได้เปรียบเรื่องอายุ ร่างกายฟื้นตัวเร็ว แต่หากยังคงใช้ชีวิตแบบสุดขั้วเป็นประจำ ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น
โรคอ้วน มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีไขมันสูง เนื่องจากหาซื้อง่ายและสะดวกรวดเร็ว หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมาก เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน โดยเฉพาะชาหรือกาแฟร้อน-เย็น ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและคาเฟอีน ซึ่งหากรับประทานมากกว่า 3 แก้วต่อวันมีผลต่อการดูดซึมของวิตามินและเกลือแร่
การปวดประจำเดือน มักเป็นอาการยอดนิยมของผู้หญิงวัยทำงาน การปวดประจำเดือนเกิดจากหลายสาเหตุตั้งแต่พันธุกรรม วิถีการดำเนินชีวิต ภาวะความเครียดและอาหาร แต่เราสามารถบรรเทาอาการปวดได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเบื้องต้น เช่น การงดดื่มชาและกาแฟ การออกกำลังกายเป็นประจำวันละ 30 นาทีประมาณ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี6 หรือน้ำมันอีฟนิ่งพรีมโรสก่อนเวลามีประจำเดือน เพื่อบรรเทาอาการปวด
รู้จักดูแลถนอมตับที่อาจทำงานหนักเกินไป โดยเฉพาะคนรับประทานอาหารที่มีรสเค็มและมีปริมาณไขมันสูง หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้และหันไปรับประทานผักผลไม้มากๆ แทน เพื่อเร่งการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย จากการวิจัยพบว่าการดื่มน้ำบีทรูทคั้นสดๆ จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกายได้ดี
30-39 วัยแห่งการเตรียมพร้อมรับมือจากความเสื่อมต่างๆ
หากพูดถึงอายุเมื่อขึ้นเลข 3 หลายคนรู้สึกเขินหรือบ่ายเบี่ยงที่จะตอบทุกครั้งที่มีคนถาม อย่างไรก็ตามลักษณะภายนอกที่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาถือเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญต่อสุขภาพหรือการดำเนินชีวิตเท่าไรนักหากเปรียบกับความแข็งแรงของร่างกาย ช่วงอายุนี้จึงควรเน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นและออกกำลังกาย เพื่อฟื้นฟูอวัยวะ ต้านความเสื่อมจากภายในสู่ภายนอก
ป้องกันโรคกระดูกพรุนก่อนวัย ภาวะมวลกระดูกสูงสุด (peakbone mass) จะหยุดอยู่ช่วงอายุ 30-35 ปี หลังจากนั้นร่างกายจะรักษาระดับมวลกระดูกไว้คงที่ จนกระทั่งอายุมากขึ้น ร่างกายจะดึงเอาแคลเซียมจากกระดูกไปใช้ ทำให้กระดูกบางและแตกง่าย เป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุนในอนาคต ดังนั้นช่วงอายุดังกล่าวจึงไม่ยังไม่สายเกินไปที่จะสะสมแคลเซียมให้กระดูก โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดู เช่น เต้าหู้ นม โยเกิร์ต ผักใบเขียว ปลากระป๋องหรือปลาซาร์ดีนที่รับประทานได้ทั้งกระดูกและผลไม้ต่างๆ
เพิ่มพลังเมตาโบลิซึม เคยมีรายงานกล่าวว่าทุก 10 ปีที่อายุมากขึ้นน้ำหนักจะเพิ่มประมาณ 5 กิโลกรัม ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายลดประสิทธิภาพการทำงานลง ประกอบกับตนเองยังรับประทานอาหารปริมาณเท่าเดิมและมีวิถีชีวิตเหมือนเดิม ซึ่งหากยังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตก็อาจเป็นสาเหตุของโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ดังนั้นวิธีพื้นฐานในการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานคือ รับประทานคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนอย่างพอเหมาะ ลดปริมาณไขมันลง เพิ่มผักหรือผลไม้ในแต่ละมื้อให้มากขึ้น บางคนอาจลองรับประทานอาหารปริมาณครั้งละน้อยๆ แต่รับประทานวันละหลายๆ มื้อ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และป้องกันไม่ให้รับประทานอาหารจุบจิบระหว่างมื้อใหญ่ๆ
เพิ่มพลังให้ผิวสวย ไร้ริ้วรอย ผู้หญิงวัยนี้สามารถฟื้นฟูผิวให้ดูสดใส ไร้ริ้วรอยก่อนวัยด้วยการนอนหลับให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง ประกอบกับรับประทานผลไม้และผักมากๆ โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินอีมาก เช่น นม ไข่ ถั่ว ผักโขม มะเขือเทศ เป็นต้น รวมถึงการรับประทานน้ำให้ได้วันละ 7-8 แก้ว เพื่อเร่งกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ผลัดเซลล์เก่าภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการทาครีมบำรุงและครีมกันแดด ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจ้า เพราะจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่น แห้งกร้าน เป็นสาเหตุทำให้มีริ้วรอยก่อนวัย
40-49 วัยแห่งการปรับตัวเท่าทันโรค
ช่วงนี้ถือวัยที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการทำงานภายในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะหมดประจำเดือน (menopause) ซึ่งไม่ได้เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเท่านั้นแต่ยังมีผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจอีกด้วย
การรับมือจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะหยุดการทำงาน ทำให้มีผลต่อการทำงานของอวัยวะภายในต่างๆ เช่น ผิวแห้งและแพ้ง่าย เกิดอาการร้อนวูบวาบ ความดันโลหิตสูง ปวดหัวไมเกรนบ่อยๆ ช่องคลอดแห้งมีอาการคันและแสบ ภาวะนอนไม่หลับและโรคกระดูกพรุน ทั้งนี้เราสามารถรับมือกับโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยการปรึกษาแพทย์ ขอคำแนะนำในการรับประทานฮอร์โมนทดแทนเพื่อบรรเทาอาการข้างต้น นอกจากนี้ยังต้องหมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ แต่ต้องมีใยอาหาร แคลเซียมมากๆ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกเสื่อมมากยิ่งขึ้น โดยการรับประทานอาหารที่มีไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งประกอบด้วยเอสโตรเจนจากธรรมชาติ เช่น ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ธัญพืชและผักผลไม้ต่างๆ เป็นต้น
รับมือกับภาวะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำตำหนิเมื่อเจอผู้หญิงสูงวัยที่หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวนว่า “อยู่ในภาวะหมดประจำเดือน” ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ถูกต้อง (ไม่นับนิสัยส่วนตัว) ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนต้องเผชิญเมื่อถึงวัย แต่เราสามารถควบคุมและจัดการกับอารมณ์แปรปรวนหรือความเครียดนี้ได้ โดยการหากิจกรรมที่ผ่อนคลายจิตใจ เช่น ฟังเพลงเบาๆ ท่องเที่ยวกับครอบครัว พูดคุยปรึกษากับเพื่อน เป็นต้น และที่สำคัญควรงดสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องระวังโรคร้ายอื่นๆ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำทุกปี
50-59 วัยแห่งการปรับสมดุลชีวิตสู้โรคภัย
หลายคนในช่วงวัยนี้ประสบภาวะโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯ ทั้งนี้แม้ว่าจะรู้อาการของโรคและวิธีการรักษา แต่ก็ยังต้องการความดูแลเอาใจใส่ต่อสุขภาพและการควบคุมไม่ให้โรคร้ายแรงขึ้นโดยไม่ประมาท พื้นฐานของการดูแลรักษาไม่ให้โรคกำเริบหรือเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ คือ การทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด การรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะต่อโรคนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น
โรคเบาหวาน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง ควรเน้นผักและผลไม้ที่ไม่มีน้ำตาลมากและให้ใยอาหารสูง ไม่สวมเสื้อผ้าหรือใส่รองเท้าบีบรัดมากเกินไปและดูแลร่างกายไม่ให้เกิดบาดแผล โดยเฉพาะบริเวณเท้า หลังอาบน้ำตอนเย็นทุกวันให้ใช้กระจกส่องฝ่าเท้าเพื่อเช็คว่ามีแผลหรือไม่ หากตรวจพบว่ามีแผลให้รีบทำความสะอาดและเฝ้าระวังไม่ให้แผลรุกราม หรือให้รีบไปพบแพทย์ทันที
คอเลสตอรอลสูง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ส่วนหนังและไขมันสัตว์ รวมถึงอาหารทะเลต่างๆ ทั้งนี้สำหรับบางคนที่ต้องรับประทานยาที่แพทย์แนะนำก็ต้องหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ และหมั่นออกกำลังกายเพื่อช่วยการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดให้ดียิ่งขึ้น
โรคไขข้อ พยายามควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐาน เพราะจะทำให้กระดูกและข้อแบกรับน้ำหนักมาก ทำให้อาการปวดยิ่งรุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน การลุกนั่ง นอกจากนี้ควรออกกำลังกายเป็นประจำ เน้นประเภทที่ไม่กระเทือนข้อเข่า เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ รำไทเก็ก ชิกง ฯลฯ
ดังนั้นผู้หญิงควรเอาใจใส่ดูแลความสวยงามและสุขภาพร่างกายไปพร้อมๆ กัน โดยเริ่มตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ ทั้งนี้หากอายุมากคิดจะกลับไปสุขภาพดีเหมือนเดิมย่อมเป็นไปไม่ได้ เป็นสัจธรรมของธรรมชาติ อย่างไรก็ตามการดูแลตามสภาพของวัยอย่างเหมาะสมสามารถช่วยให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้นและมีความสุข
2551-09-18
2551-09-10
หญิงงมหอย(แครง) เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก !!!
ผลวิจัยเผย กลุ่มอาชีพสตรีที่สุดเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด คือ งมหอยแครงในชุมชนนาเกลือ เหตุต้องแช่น้ำสกปรกเวลานาน เสี่ยงติดเชื้ออุ้งเชิงกราน นานวันตกขาว ติดเชื้อและไวรัสเอชพีวีต้นเหตุมะเร็งปากมดลูก นางบุษบงก์ วิเศษพลชัย พยาบาลวิชาชีพ 7 สถานีอนามัยนาเกลือ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ได้นำเสนองานวิจัยเรื่อง พฤติกรรมการป้องกันตนเองจากมะเร็งปากมดลูกในสตรีกลุ่มเสี่ยงที่ประกอบอาชีพงมหอยแครงในชุมชนนาเกลือ ในการประชุมวิชาการสาธารณสุขเขต 8 และ 9 ซึ่งพบว่า อาชีพสตรีงมหอยแครงเป็นกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากต้องแช่น้ำสกปรกเป็นเวลานาน ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานซ้ำๆ ทำให้เกิดการตกขาว ยิ่งมีโอกาสทำให้เชื้อโรคต่างๆ ติดได้ง่าย รวมถึงเชื้อไวรัสเอชพีวี ต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก “แม้ว่ายังไม่มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่า น้ำในวังหอยที่ไม่ไหลเวียนนานกว่า 8 เดือน ที่ถือว่าเป็นน้ำสกปรก เพราะมีขี้หอยสะสมอยู่ สัมพันธ์อย่างไรกับการป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก แต่องค์การอนามัยโลกก็ยืนยันว่า หากเกิดการเชื้อซ้ำๆ ในบริเวณอุ้งเชิงกรานย่อมมีโอกาสต่อการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนั้น แม้สตรีกลุ่มนี้จะไม่เป็นมะเร็งปากมดลูกแต่ก็พบว่ามีอาการติดเชื้อในช่องคลอดเป็นจำนวนมาก”
นางบุษบงก์ กล่าวว่า ในการสำรวจครั้งนี้ ศึกษาในสตรีที่ประกอบอาชีพที่งมหอยแครงในชุมชนนาเกลืออายุ 35-60 ปี จำนวน 62 ราย จากทั้งหมด 78 คน พบว่า
- ปกติ 47 ราย
- มีเชื้อรา 15 ราย
พบว่าเมื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก พบว่า มีผู้ป่วยอยู่ในระยะ 2 จำนวน 1 ราย และระยะที่ 3 จำนวน 1 ราย โดยที่ผู้ป่วยไม่ทราบมาก่อนและไม่เคยตรวจคัดกรองด้วย ทางสถานีอนามัยได้ส่งต่อไปรักษามะเร็งปากมดลูกจนหายขาด ที่สำคัญ ยังส่งผลให้สตรีกลุ่มอาชีพอื่นๆ ที่ไม่เคยตรวจมะเร็งปากมดลูกมาก่อนตัดสินใจมาตรวจมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นซึ่งพบว่ามีสตรีในหมู่บ้าน 70 คน ร่วมโครงการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกซึ่งได้ให้ความรู้ควบคู่ด้วย
ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูล พบว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้ประกอบอาชีพงบหอยแครงเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าอาชีพอื่นๆ นอกจากสตรีกลุ่มนี้ จะต้องแช่น้ำเป็นเวลานาน โดยไม่สวมกางเกงใน ตั้งแต่ 05.50-15.00 น.เป็นประจำทุกวัน เพื่อแลกกับค่าแรง 250-300 ต่อวัน และน้ำในวังหอยสกปรกอย่ามากแล้ว สตรีกลุ่มนี้ยังกินยาคุมเป็นเวลานานติดต่อกันอย่างไม่ถูกต้อง โดยกินยาคุมเพื่อไม่ให้เป็นประจำเดือน คือ กินติดต่อกันโดยไม่เว้นระยะ เนื่องจากสตรีที่ประกอบอาชีพนี้มักเป็นกลุ่มคนด้อยโอกาส จึงต้องการทำงานโดยไม่เว้นวันหยุด เพราะหากหยุดหมายถึงไม่ได้รับเงินค่าจ้างที่จะนำมาใช้ในแต่ละวัน
“ได้แนะนำสตรีกลุ่มนี้ ว่า เมื่อขึ้นจากน้ำกลับบ้านให้รับรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายโดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาล้างช่องคลอดกับอวัยวะเพศใช้เพียงน้ำสะอาดและสบู่ก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ วางแผนต่อยอดโครงการติดตามผลการเป็นมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มอาชีพดังกล่าวเป็นระยะๆ ต่อไปด้วย พร้อมกันนี้ ขอเตือนผู้ประกอบอาชีพที่มีความจำเป็นในการต้องแช่น้ำนานๆ หรือผู้ที่กินยาคุมติดต่อกันนานๆ รวมถึงผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ควรได้รับการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก” นางบุษบงก์ กล่าว
2551-09-03
กินอย่างไรให้น้ำหนักลด
ตัวอย่างเมนูอาหารใน 1 วัน เพื่อควบคุมน้ำหนัก ลองเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย เมนูตัวอย่างนี้เพื่อให้คุณได้เลือกอาหารที่มีไขมันต่ำมาแทนอาหารที่คุณกินอยู่ประจำที่อาจมีไขมันสูงกว่า
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินเป็นสิ่งยั่งยืนที่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องของการกินอาหารควรต้องมีการยืดหยุ่นบ้าง เช่นหากมื้อใดกินมาก มื้อต่อไปต้องลดลง เพื่อให้เกิดความสมดุลของพลังงาน จะเลือกกินอะไรต้องใช้เหตุผลเหนือจิตใจ ค่อยทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าใจร้อน ต้องใช้ความอดทน กิจกรรมประจำวันต้องกระฉับกระเฉง และควรระลึกอยู่เสมอว่า ไม่มีอาหารหรือยาชนิดใดที่สามารถลดน้ำหนักของคุณลงได้ตลอดกาล และอย่าเชื่อในสิ่งที่เหลือเชื่อ ขอจงเชื่อมั่นในตัวเองเป็นดีที่สุด
2551-08-28
เรื่องเล่าจากหญิงชรา...
วันแรกที่พวกเราเริ่มการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นอาจารย์ของเราได้เข้ามาแนะนำตัวและบอกให้พวกเราทำความรู้จักกับคนอื่นๆ ที่เราไม่รู้จักมาก่อนผมยืนขึ้นแล้วมองไปรอบๆ และมีมือๆ หนึ่ง เอื้อมมาจับบ่าของผมผมหันไปพบกับหญิงชราร่างเล็ก ผิวหนังเหี่ยวย่น ที่ส่งรอยยิ้มอันเป็นประกายมาให้ผมรอยยิ้มนั้นทำให้เธอดูสดใสอย่างยิ่ง
หญิงชราคนนั้นกล่าวขึ้นว่า"สวัสดี รูปหล่อ ฉันชื่อโรส อายุแปดสิบเจ็ดแล้ว มาให้ฉันกอดสักทีสิ"
ผมหัวเราะกับท่าทางของเธอ และตอบอย่างร่าเริงว่า"แน่นอน ได้สิครับ " แล้วเธอก็กอดผมอย่างแรง ผมถามเธอว่า"ทำไมคุณถึงมาเรียนมหาวิทยาลัย เอาตอนที่อายุน้อยและไร้เดียงสาอย่างนี้ละ.. "
เธอตอบด้วยเสียงปนหัวเราะว่า "ฉันมาหาสามีรวยๆ ที่ฉันจะได้แต่งงานด้วย แล้วมีลูกสักสองสามคน..."ผมขัดจังหวะเธอ โดยถามว่า "ไม่เอาครับ.. ถามจริงๆ " ผมสงสัยจริงๆ ว่า อะไรทำให้เธอมาเรียนที่นี่ตอนที่อายุขนาดนี้ และเธอตอบว่า"ฉันฝันมานานแล้ว ว่าฉันจะได้ปริญญา และตอนนี้ ฉันก็กำลังจะได้ปริญญาที่ฉันฝัน"หลังเลิกเรียนวิชานั้น เราเดินไปที่อาคารสโมสรนักศึกษาด้วยกัน และนั่งกินชอคโกแลตปั่นด้วยกัน เรากลายเป็นเพื่อนกันในทันทีตลอดสามเดือนหลังจากนั้น เราจะออกจากชั้นเรียนพร้อมกัน และจะไปนั่งคุยกันไม่หยุด ผมนั้นประหลาดใจเสมอเมื่อได้ฟัง "ยานเวลา" ลำนี้แบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ของเธอให้กับผม
ตลอดปีนั้น โรสได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยของเรา และเธอนั้นจะเป็นเพื่อนได้กับทุกคนในทุกที่ที่เธอไป เธอรักที่จะแต่งตัวดีๆและดื่มด่ำอยู่กับความสนใจ ที่นักศึกษาคนอื่นๆ มีให้กับเธอ เธอได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เมื่อถึงตอนสิ้นสุดภาคการศึกษา เราได้เชิญโรสให้มาพูดที่งานเลี้ยงของทีมฟุตบอลของเราผมไม่เคยลืมเลยว่า เธอได้สอนอะไรให้กับเรา ... พิธีกรแนะนำตัวเธอ และเธอก็เดินขึ้นมาที่แท่น
ตอนที่เธอกำลังเตรียมตัวที่จะพูดตามที่เธอตั้งใจนั้นเธอทำการ์ดที่บันทึกเรื่องที่เธอจะพูดตกพื้น เธอทั้งอาย ทั้งประหม่าแต่เธอโน้มตัวเข้าหาไมโครโฟนแล้วบอกว่า"ขอโทษด้วยนะ ที่ฉันซุ่มซ่าม ฉันเลิกกินเบียร์มาตั้งนานแล้วแต่วิสกี้พวกนี้มันแรงจริงๆ... ฉันคงจะเอาบทของฉันมาเรียงใหม่ไม่ทันแล้วงั้นฉันก็คงได้แค่บอกเรื่องที่ฉันรู้ให้กับพวกคุณก็แล้วกัน"
พวกเราทุกคนหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง ตอนที่เธอเริ่มต้นว่า
"พวกเราทุกคนนั้น ไม่ได้หยุดเล่นเพราะเราแก่หรอก แต่เราแก่เพราะว่าเราหยุดเล่นที่จริงแล้วมีเคล็ดลับสู่การที่จะยังหนุ่มสาวอยู่เสมอมีความสุขและประสบความสำเร็จอยู่ 4 ประการ
1) พวกคุณจะต้องหัวเราะ และมีเรื่องสนุกๆ ขำขันทุกวัน
2) พวกคุณจะต้องมีความฝัน เมื่อไรก็ตามที่คุณสูญเสีย ความฝันของคุณไป คุณจะตาย มีคนมากมายที่ยังเดินไป เดินมาอยู่ทั้งๆที่ตายไปแล้วและไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายไปแล้ว..
3) การที่คุณ "แก่ขึ้น" กับ "เติบโตขึ้น" นั้นมันต่างกันมาก ถ้าคุณอายุสิบเก้า แล้วนอนอยู่บนเตียงเฉยๆปีหนึ่งและไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ตลอดทั้งปี คุณก็จะอายุยี่สิบถ้าฉันอายุแปดสิบเจ็ด แล้วนอนเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยตลอดทั้งปี ฉันก็จะอายุแปดสิบแปด ทุกๆ คนนั้นจะแก่ขึ้น ทั้งนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยความสามารถอะไรเลยประเด็นของการ เติบโตขึ้น นั้นอยู่ที่การแสวงหาโอกาสในการเปลี่ยนแปลง
4) อย่าทิ้งอะไรไว้ให้เสียใจภายหลัง คนสูงอายุส่วนใหญ่นั้น ไม่เสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้ว แต่มักจะเสียใจกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ คนที่กลัวความตายนั้น มีแต่คนที่ยังมีสิ่งที่ต้องเสียใจค้างอยู่ "
หญิงชราคนนั้นกล่าวขึ้นว่า"สวัสดี รูปหล่อ ฉันชื่อโรส อายุแปดสิบเจ็ดแล้ว มาให้ฉันกอดสักทีสิ"
ผมหัวเราะกับท่าทางของเธอ และตอบอย่างร่าเริงว่า"แน่นอน ได้สิครับ " แล้วเธอก็กอดผมอย่างแรง ผมถามเธอว่า"ทำไมคุณถึงมาเรียนมหาวิทยาลัย เอาตอนที่อายุน้อยและไร้เดียงสาอย่างนี้ละ.. "
เธอตอบด้วยเสียงปนหัวเราะว่า "ฉันมาหาสามีรวยๆ ที่ฉันจะได้แต่งงานด้วย แล้วมีลูกสักสองสามคน..."ผมขัดจังหวะเธอ โดยถามว่า "ไม่เอาครับ.. ถามจริงๆ " ผมสงสัยจริงๆ ว่า อะไรทำให้เธอมาเรียนที่นี่ตอนที่อายุขนาดนี้ และเธอตอบว่า"ฉันฝันมานานแล้ว ว่าฉันจะได้ปริญญา และตอนนี้ ฉันก็กำลังจะได้ปริญญาที่ฉันฝัน"หลังเลิกเรียนวิชานั้น เราเดินไปที่อาคารสโมสรนักศึกษาด้วยกัน และนั่งกินชอคโกแลตปั่นด้วยกัน เรากลายเป็นเพื่อนกันในทันทีตลอดสามเดือนหลังจากนั้น เราจะออกจากชั้นเรียนพร้อมกัน และจะไปนั่งคุยกันไม่หยุด ผมนั้นประหลาดใจเสมอเมื่อได้ฟัง "ยานเวลา" ลำนี้แบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ของเธอให้กับผม
ตลอดปีนั้น โรสได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยของเรา และเธอนั้นจะเป็นเพื่อนได้กับทุกคนในทุกที่ที่เธอไป เธอรักที่จะแต่งตัวดีๆและดื่มด่ำอยู่กับความสนใจ ที่นักศึกษาคนอื่นๆ มีให้กับเธอ เธอได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เมื่อถึงตอนสิ้นสุดภาคการศึกษา เราได้เชิญโรสให้มาพูดที่งานเลี้ยงของทีมฟุตบอลของเราผมไม่เคยลืมเลยว่า เธอได้สอนอะไรให้กับเรา ... พิธีกรแนะนำตัวเธอ และเธอก็เดินขึ้นมาที่แท่น
ตอนที่เธอกำลังเตรียมตัวที่จะพูดตามที่เธอตั้งใจนั้นเธอทำการ์ดที่บันทึกเรื่องที่เธอจะพูดตกพื้น เธอทั้งอาย ทั้งประหม่าแต่เธอโน้มตัวเข้าหาไมโครโฟนแล้วบอกว่า"ขอโทษด้วยนะ ที่ฉันซุ่มซ่าม ฉันเลิกกินเบียร์มาตั้งนานแล้วแต่วิสกี้พวกนี้มันแรงจริงๆ... ฉันคงจะเอาบทของฉันมาเรียงใหม่ไม่ทันแล้วงั้นฉันก็คงได้แค่บอกเรื่องที่ฉันรู้ให้กับพวกคุณก็แล้วกัน"
พวกเราทุกคนหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง ตอนที่เธอเริ่มต้นว่า
"พวกเราทุกคนนั้น ไม่ได้หยุดเล่นเพราะเราแก่หรอก แต่เราแก่เพราะว่าเราหยุดเล่นที่จริงแล้วมีเคล็ดลับสู่การที่จะยังหนุ่มสาวอยู่เสมอมีความสุขและประสบความสำเร็จอยู่ 4 ประการ
1) พวกคุณจะต้องหัวเราะ และมีเรื่องสนุกๆ ขำขันทุกวัน
2) พวกคุณจะต้องมีความฝัน เมื่อไรก็ตามที่คุณสูญเสีย ความฝันของคุณไป คุณจะตาย มีคนมากมายที่ยังเดินไป เดินมาอยู่ทั้งๆที่ตายไปแล้วและไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายไปแล้ว..
3) การที่คุณ "แก่ขึ้น" กับ "เติบโตขึ้น" นั้นมันต่างกันมาก ถ้าคุณอายุสิบเก้า แล้วนอนอยู่บนเตียงเฉยๆปีหนึ่งและไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ตลอดทั้งปี คุณก็จะอายุยี่สิบถ้าฉันอายุแปดสิบเจ็ด แล้วนอนเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยตลอดทั้งปี ฉันก็จะอายุแปดสิบแปด ทุกๆ คนนั้นจะแก่ขึ้น ทั้งนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยความสามารถอะไรเลยประเด็นของการ เติบโตขึ้น นั้นอยู่ที่การแสวงหาโอกาสในการเปลี่ยนแปลง
4) อย่าทิ้งอะไรไว้ให้เสียใจภายหลัง คนสูงอายุส่วนใหญ่นั้น ไม่เสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้ว แต่มักจะเสียใจกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ คนที่กลัวความตายนั้น มีแต่คนที่ยังมีสิ่งที่ต้องเสียใจค้างอยู่ "
เธอจบการพูดของ เธอด้วยการร้องเพลง "The Rose" อย่างกล้าหาญและเธอได้แนะให้พวกเราทุกคนศึกษาเนื้อร้องของเพลงนั้นและเอาความหมายเหล่านั้นมา ใช้กับชีวิตประจำวันของพวกเรา
เมื่อสิ้นปีการศึกษานั้น โรสได้รับปริญญาที่เธอได้เริ่มฝันไว้เมื่อนานมาแล้ว
หนึ่งสัปดาห์หลังจบการศึกษา โรสจากไปอย่างสงบเธอนอนหลับไปและไม่ตื่นขึ้นอีกเลย นักศึกษากว่าสองพันคนไปร่วมพิธีศพของเธอ เพื่อแสดงความเคารพ ต่อหญิงชราผู้วิเศษ
ผู้ได้สอนให้พวกเขาได้รู้ ด้วยการทำให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า .......ไม่มีคำว่าสายเกินไป ที่จะเป็นทุกสิ่งที่คุณสามารถเป็นได้
เมื่อคุณอ่านเรื่องนี้จบลง กรุณาส่ง คำแนะนำอันดีเยี่ยมนี้ต่อให้กับเพื่อนและครอบครัวของคุณ พวกเขาคงจะชอบมัน
เรื่องราวเหล่านี้ส่งต่อกันมาเพื่อระลึกถึงหญิงชราที่ชื่อ โรส
หนึ่งสัปดาห์หลังจบการศึกษา โรสจากไปอย่างสงบเธอนอนหลับไปและไม่ตื่นขึ้นอีกเลย นักศึกษากว่าสองพันคนไปร่วมพิธีศพของเธอ เพื่อแสดงความเคารพ ต่อหญิงชราผู้วิเศษ
ผู้ได้สอนให้พวกเขาได้รู้ ด้วยการทำให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า .......ไม่มีคำว่าสายเกินไป ที่จะเป็นทุกสิ่งที่คุณสามารถเป็นได้
เมื่อคุณอ่านเรื่องนี้จบลง กรุณาส่ง คำแนะนำอันดีเยี่ยมนี้ต่อให้กับเพื่อนและครอบครัวของคุณ พวกเขาคงจะชอบมัน
เรื่องราวเหล่านี้ส่งต่อกันมาเพื่อระลึกถึงหญิงชราที่ชื่อ โรส
จงจำไว้ว่า
"การแก่ขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่การเติบโตขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เราเลือกได้เราอยู่ได้ด้วยสิ่งที่เราได้รับ แต่เราจะมีชีวิตอยู่เพราะสิ่งที่เราให้ไป"
2551-08-20
"ทำไมต้องยอมแพ้"
ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ
ชายคน นั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน
ชายคนนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนอาชีวะ แห่งซูริค
ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า "สมองช้าไม่ชอบสังคมและ ล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัวเองตลอดเวลา
"ชายคนนั้น...ชื่อ "อัลเบิร์ต ไอสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู
---------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์
ชายคนนั้น... ลองสมัครใหม่ดูอีกทีชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีกครั้ง
ชายคนนั้น...พยายาม เป็นครั้งที่สามชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน
ชายคนนั้น...ได้ เป็นทหารสมใจ
ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ สองได้สำเร็จ
ชายคนนั้น...ชื่อ "นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์"ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง
--------------------------------------------------------------
ชายกลุ่มหนึ่งเป็นนักดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคนหนึ่งจากบริษัทเดคคาเรคคอร์ต้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ ว่า"เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขาและกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลัง จะหมดสมัยแล้ว
"ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน
----------------------------------------------------------------
"ชายคนนั้น...ชื่อ "อัลเบิร์ต ไอสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู
---------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์
ชายคนนั้น... ลองสมัครใหม่ดูอีกทีชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีกครั้ง
ชายคนนั้น...พยายาม เป็นครั้งที่สามชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน
ชายคนนั้น...ได้ เป็นทหารสมใจ
ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ สองได้สำเร็จ
ชายคนนั้น...ชื่อ "นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์"ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง
--------------------------------------------------------------
ชายกลุ่มหนึ่งเป็นนักดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคนหนึ่งจากบริษัทเดคคาเรคคอร์ต้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ ว่า"เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขาและกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลัง จะหมดสมัยแล้ว
"ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน
----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่ง...เป็นนักกีฬา
ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียนมัธยม
ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียนมัธยม
ชายคนนั้น...เคยถูกคัดออกจากทีมโรงเรียน
ชายคนนั้น...ชื่อ "ไมเคิล จอร์แดน"หนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลที่ทำเงินมากที่สุดในโลก
----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่ง...เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน
ชายคนนั้น...สูญเสียความสามารถ ในการฟังลงเรื่อยๆ
ชายคนนั้น...หูหนวกสนิทเมื่อมีอายุได้ 46 ปี
ชายคน นั้น...ได้ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ชายคน นั้น...ชื่อ "ลุดวิก ฟาน บีโธเฟน" นักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก
-----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่งสอบตกประถม 6
ชายคนนั้น...เคยมีชีวิตที่พ่ายแพ้และล้มเหลวมา ตลอด
ชายคนนั้น...ล้วนทำประโยชน์ครั้งใหญ่ๆเมื่อเขากลายเป็นผู้สูงอายุ แล้ว
ชายคนนั้น...ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่ออายุ 62 ปี
ชายคน นั้น...ชื่อ "วินสตัน เชอร์ชิล" อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี
ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษา ระดับกลางเท่านั้น
ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนใน วิชาเคมี
ชายคนนั้น...ชื่อ "หลุยส์ ปาสเตอร์" ผู้ค้นพบวัคซีนในการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า
----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง
ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอ เพรย์ไล่ออก
ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า "แกมันไปไม่ถึงไหนเลยแกควร กลับไปขับรถบรรทุก มากกว่า
ชายคนนั้น...ชื่อ "เอลวิส เพรสลีย์"
----------------------------------------------------------------
หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง
หญิงคนนั้น...ทำงานให้ กับบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่
หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า"เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯหรือไม่ ก็แต่งงานเสียดีกว่า
หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์ หรือที่รู้จัก กันในนาม "มาริลีนมอนโร" นั่นเอง
-----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก
ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับ มหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อมา
ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจ โคลัมเบีย
ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา
ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์ รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากเงินลงทุนเพียง 100 เหรียญสหรัฐ
ชายคน นั้น...ชื่อ "วอเรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนอัจฉริยะอภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก
----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก
ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับ คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้า คอมพิวเตอร์"
ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี
ชายคนนั้น...ปัจจุบัน คือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...เคย ถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"
ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่ สาม หรือที่รู้จักกันในนาม"บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐี อันดับหนึ่งของโลกผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ
ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี
ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษา ระดับกลางเท่านั้น
ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนใน วิชาเคมี
ชายคนนั้น...ชื่อ "หลุยส์ ปาสเตอร์" ผู้ค้นพบวัคซีนในการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า
----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง
ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอ เพรย์ไล่ออก
ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า "แกมันไปไม่ถึงไหนเลยแกควร กลับไปขับรถบรรทุก มากกว่า
ชายคนนั้น...ชื่อ "เอลวิส เพรสลีย์"
----------------------------------------------------------------
หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง
หญิงคนนั้น...ทำงานให้ กับบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่
หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า"เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯหรือไม่ ก็แต่งงานเสียดีกว่า
หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์ หรือที่รู้จัก กันในนาม "มาริลีนมอนโร" นั่นเอง
-----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก
ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับ มหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อมา
ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจ โคลัมเบีย
ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา
ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์ รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากเงินลงทุนเพียง 100 เหรียญสหรัฐ
ชายคน นั้น...ชื่อ "วอเรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนอัจฉริยะอภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก
----------------------------------------------------------------
ชายคนหนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก
ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับ คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้า คอมพิวเตอร์"
ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี
ชายคนนั้น...ปัจจุบัน คือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...เคย ถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"
ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่ สาม หรือที่รู้จักกันในนาม"บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐี อันดับหนึ่งของโลกผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ
--------------------------------------------------------------
"เชื่อว่าทุกคนเคยแพ้
เชื่อว่าทุกคนเคยล้มเหลว
แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ ล้มเหลว
เชื่อว่าทุกคนเคยล้มเหลว
แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ ล้มเหลว
คนล้มเหลวคือ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก"
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)