คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

2551-09-18

ปรับชีวิตให้สมดุลทุก 10 ปี

แม้ว่าชีวิตมนุษย์จะหลีกเลี่ยงโรคภัยไข้เจ็บหรือความเสื่อมของร่างกายไม่ได้ แต่สามารถปรับปรุงชีวิตให้อยู่อย่างมีความสุข โดยการหาวิธีรับมือกับสภาวะการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องดูแลภาพลักษณ์ภายนอกให้ดูดีพร้อมๆ กับการฟิตร่างกายให้พร้อมสำหรับสุขภาพในอนาคต

20-29 วัยแห่งการบั่นทอนสุขภาพ
เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างชีวิตวัยเรียนและชีวิตการทำงาน สาวๆ วัยนี้จึงเต็มไปด้วยพลังงานและความกระตือรือร้นต่อสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ รอบตัว จึงไม่น่าแปลกที่การดำเนินชีวิตจะค่อนข้างสมบุกสมบัน เช่น การอ่านหนังสือเรียนจนดึกดื่น การทำงานอย่างเคร่งเครียดไม่มีเวลาพักผ่อน หรือแม้กระทั่งร่วมฉลองทุกสุดสัปดาห์กับเพื่อนๆ ด้วยการดื่มและท่องราตรี แม้จะได้เปรียบเรื่องอายุ ร่างกายฟื้นตัวเร็ว แต่หากยังคงใช้ชีวิตแบบสุดขั้วเป็นประจำ ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว ยกตัวอย่างเช่น
โรคอ้วน มีสาเหตุมาจากการรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีไขมันสูง เนื่องจากหาซื้อง่ายและสะดวกรวดเร็ว หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลมาก เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน โดยเฉพาะชาหรือกาแฟร้อน-เย็น ที่มีส่วนผสมของน้ำตาลและคาเฟอีน ซึ่งหากรับประทานมากกว่า 3 แก้วต่อวันมีผลต่อการดูดซึมของวิตามินและเกลือแร่
การปวดประจำเดือน มักเป็นอาการยอดนิยมของผู้หญิงวัยทำงาน การปวดประจำเดือนเกิดจากหลายสาเหตุตั้งแต่พันธุกรรม วิถีการดำเนินชีวิต ภาวะความเครียดและอาหาร แต่เราสามารถบรรเทาอาการปวดได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเบื้องต้น เช่น การงดดื่มชาและกาแฟ การออกกำลังกายเป็นประจำวันละ 30 นาทีประมาณ 5 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี6 หรือน้ำมันอีฟนิ่งพรีมโรสก่อนเวลามีประจำเดือน เพื่อบรรเทาอาการปวด
รู้จักดูแลถนอมตับที่อาจทำงานหนักเกินไป โดยเฉพาะคนรับประทานอาหารที่มีรสเค็มและมีปริมาณไขมันสูง หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้และหันไปรับประทานผักผลไม้มากๆ แทน เพื่อเร่งการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย จากการวิจัยพบว่าการดื่มน้ำบีทรูทคั้นสดๆ จะทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้น เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยล้างพิษในร่างกายได้ดี

30-39 วัยแห่งการเตรียมพร้อมรับมือจากความเสื่อมต่างๆ
หากพูดถึงอายุเมื่อขึ้นเลข 3 หลายคนรู้สึกเขินหรือบ่ายเบี่ยงที่จะตอบทุกครั้งที่มีคนถาม อย่างไรก็ตามลักษณะภายนอกที่เปลี่ยนแปลงตามกาลเวลาถือเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญต่อสุขภาพหรือการดำเนินชีวิตเท่าไรนักหากเปรียบกับความแข็งแรงของร่างกาย ช่วงอายุนี้จึงควรเน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นและออกกำลังกาย เพื่อฟื้นฟูอวัยวะ ต้านความเสื่อมจากภายในสู่ภายนอก
ป้องกันโรคกระดูกพรุนก่อนวัย ภาวะมวลกระดูกสูงสุด (peakbone mass) จะหยุดอยู่ช่วงอายุ 30-35 ปี หลังจากนั้นร่างกายจะรักษาระดับมวลกระดูกไว้คงที่ จนกระทั่งอายุมากขึ้น ร่างกายจะดึงเอาแคลเซียมจากกระดูกไปใช้ ทำให้กระดูกบางและแตกง่าย เป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุนในอนาคต ดังนั้นช่วงอายุดังกล่าวจึงไม่ยังไม่สายเกินไปที่จะสะสมแคลเซียมให้กระดูก โดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดู เช่น เต้าหู้ นม โยเกิร์ต ผักใบเขียว ปลากระป๋องหรือปลาซาร์ดีนที่รับประทานได้ทั้งกระดูกและผลไม้ต่างๆ
เพิ่มพลังเมตาโบลิซึม เคยมีรายงานกล่าวว่าทุก 10 ปีที่อายุมากขึ้นน้ำหนักจะเพิ่มประมาณ 5 กิโลกรัม ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายลดประสิทธิภาพการทำงานลง ประกอบกับตนเองยังรับประทานอาหารปริมาณเท่าเดิมและมีวิถีชีวิตเหมือนเดิม ซึ่งหากยังไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตก็อาจเป็นสาเหตุของโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ ดังนั้นวิธีพื้นฐานในการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานคือ รับประทานคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนอย่างพอเหมาะ ลดปริมาณไขมันลง เพิ่มผักหรือผลไม้ในแต่ละมื้อให้มากขึ้น บางคนอาจลองรับประทานอาหารปริมาณครั้งละน้อยๆ แต่รับประทานวันละหลายๆ มื้อ เพื่อกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร และป้องกันไม่ให้รับประทานอาหารจุบจิบระหว่างมื้อใหญ่ๆ
เพิ่มพลังให้ผิวสวย ไร้ริ้วรอย ผู้หญิงวัยนี้สามารถฟื้นฟูผิวให้ดูสดใส ไร้ริ้วรอยก่อนวัยด้วยการนอนหลับให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง ประกอบกับรับประทานผลไม้และผักมากๆ โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินอีมาก เช่น นม ไข่ ถั่ว ผักโขม มะเขือเทศ เป็นต้น รวมถึงการรับประทานน้ำให้ได้วันละ 7-8 แก้ว เพื่อเร่งกระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ผลัดเซลล์เก่าภายในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการทาครีมบำรุงและครีมกันแดด ควรหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดจ้า เพราะจะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่น แห้งกร้าน เป็นสาเหตุทำให้มีริ้วรอยก่อนวัย

40-49 วัยแห่งการปรับตัวเท่าทันโรค
ช่วงนี้ถือวัยที่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการทำงานภายในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะหมดประจำเดือน (menopause) ซึ่งไม่ได้เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายเท่านั้นแต่ยังมีผลกระทบต่ออารมณ์และจิตใจอีกด้วย
การรับมือจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือน ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะหยุดการทำงาน ทำให้มีผลต่อการทำงานของอวัยวะภายในต่างๆ เช่น ผิวแห้งและแพ้ง่าย เกิดอาการร้อนวูบวาบ ความดันโลหิตสูง ปวดหัวไมเกรนบ่อยๆ ช่องคลอดแห้งมีอาการคันและแสบ ภาวะนอนไม่หลับและโรคกระดูกพรุน ทั้งนี้เราสามารถรับมือกับโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นด้วยการปรึกษาแพทย์ ขอคำแนะนำในการรับประทานฮอร์โมนทดแทนเพื่อบรรเทาอาการข้างต้น นอกจากนี้ยังต้องหมั่นออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ แต่ต้องมีใยอาหาร แคลเซียมมากๆ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้กระดูกเสื่อมมากยิ่งขึ้น โดยการรับประทานอาหารที่มีไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งประกอบด้วยเอสโตรเจนจากธรรมชาติ เช่น ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ธัญพืชและผักผลไม้ต่างๆ เป็นต้น
รับมือกับภาวะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำตำหนิเมื่อเจอผู้หญิงสูงวัยที่หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวนว่า “อยู่ในภาวะหมดประจำเดือน” ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ถูกต้อง (ไม่นับนิสัยส่วนตัว) ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนต้องเผชิญเมื่อถึงวัย แต่เราสามารถควบคุมและจัดการกับอารมณ์แปรปรวนหรือความเครียดนี้ได้ โดยการหากิจกรรมที่ผ่อนคลายจิตใจ เช่น ฟังเพลงเบาๆ ท่องเที่ยวกับครอบครัว พูดคุยปรึกษากับเพื่อน เป็นต้น และที่สำคัญควรงดสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เนื่องจากจะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องระวังโรคร้ายอื่นๆ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำทุกปี

50-59 วัยแห่งการปรับสมดุลชีวิตสู้โรคภัย
หลายคนในช่วงวัยนี้ประสบภาวะโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ฯลฯ ทั้งนี้แม้ว่าจะรู้อาการของโรคและวิธีการรักษา แต่ก็ยังต้องการความดูแลเอาใจใส่ต่อสุขภาพและการควบคุมไม่ให้โรคร้ายแรงขึ้นโดยไม่ประมาท พื้นฐานของการดูแลรักษาไม่ให้โรคกำเริบหรือเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ คือ การทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด การรับประทานอาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะต่อโรคนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น
โรคเบาหวาน หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง ควรเน้นผักและผลไม้ที่ไม่มีน้ำตาลมากและให้ใยอาหารสูง ไม่สวมเสื้อผ้าหรือใส่รองเท้าบีบรัดมากเกินไปและดูแลร่างกายไม่ให้เกิดบาดแผล โดยเฉพาะบริเวณเท้า หลังอาบน้ำตอนเย็นทุกวันให้ใช้กระจกส่องฝ่าเท้าเพื่อเช็คว่ามีแผลหรือไม่ หากตรวจพบว่ามีแผลให้รีบทำความสะอาดและเฝ้าระวังไม่ให้แผลรุกราม หรือให้รีบไปพบแพทย์ทันที
คอเลสตอรอลสูง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ส่วนหนังและไขมันสัตว์ รวมถึงอาหารทะเลต่างๆ ทั้งนี้สำหรับบางคนที่ต้องรับประทานยาที่แพทย์แนะนำก็ต้องหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ และหมั่นออกกำลังกายเพื่อช่วยการทำงานของระบบไหลเวียนเลือดให้ดียิ่งขึ้น
โรคไขข้อ พยายามควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐาน เพราะจะทำให้กระดูกและข้อแบกรับน้ำหนักมาก ทำให้อาการปวดยิ่งรุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน การลุกนั่ง นอกจากนี้ควรออกกำลังกายเป็นประจำ เน้นประเภทที่ไม่กระเทือนข้อเข่า เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ รำไทเก็ก ชิกง ฯลฯ
ดังนั้นผู้หญิงควรเอาใจใส่ดูแลความสวยงามและสุขภาพร่างกายไปพร้อมๆ กัน โดยเริ่มตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ ทั้งนี้หากอายุมากคิดจะกลับไปสุขภาพดีเหมือนเดิมย่อมเป็นไปไม่ได้ เป็นสัจธรรมของธรรมชาติ อย่างไรก็ตามการดูแลตามสภาพของวัยอย่างเหมาะสมสามารถช่วยให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้นและมีความสุข

2551-09-10

หญิงงมหอย(แครง) เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก !!!

ผลวิจัยเผย กลุ่มอาชีพสตรีที่สุดเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด คือ งมหอยแครงในชุมชนนาเกลือ เหตุต้องแช่น้ำสกปรกเวลานาน เสี่ยงติดเชื้ออุ้งเชิงกราน นานวันตกขาว ติดเชื้อและไวรัสเอชพีวีต้นเหตุมะเร็งปากมดลูก นางบุษบงก์ วิเศษพลชัย พยาบาลวิชาชีพ 7 สถานีอนามัยนาเกลือ จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ได้นำเสนองานวิจัยเรื่อง พฤติกรรมการป้องกันตนเองจากมะเร็งปากมดลูกในสตรีกลุ่มเสี่ยงที่ประกอบอาชีพงมหอยแครงในชุมชนนาเกลือ ในการประชุมวิชาการสาธารณสุขเขต 8 และ 9 ซึ่งพบว่า อาชีพสตรีงมหอยแครงเป็นกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากต้องแช่น้ำสกปรกเป็นเวลานาน ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานซ้ำๆ ทำให้เกิดการตกขาว ยิ่งมีโอกาสทำให้เชื้อโรคต่างๆ ติดได้ง่าย รวมถึงเชื้อไวรัสเอชพีวี ต้นเหตุของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูก “แม้ว่ายังไม่มีงานวิจัยยืนยันชัดเจนว่า น้ำในวังหอยที่ไม่ไหลเวียนนานกว่า 8 เดือน ที่ถือว่าเป็นน้ำสกปรก เพราะมีขี้หอยสะสมอยู่ สัมพันธ์อย่างไรกับการป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูก แต่องค์การอนามัยโลกก็ยืนยันว่า หากเกิดการเชื้อซ้ำๆ ในบริเวณอุ้งเชิงกรานย่อมมีโอกาสต่อการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้ ดังนั้น แม้สตรีกลุ่มนี้จะไม่เป็นมะเร็งปากมดลูกแต่ก็พบว่ามีอาการติดเชื้อในช่องคลอดเป็นจำนวนมาก”
นางบุษบงก์ กล่าวว่า ในการสำรวจครั้งนี้ ศึกษาในสตรีที่ประกอบอาชีพที่งมหอยแครงในชุมชนนาเกลืออายุ 35-60 ปี จำนวน 62 ราย จากทั้งหมด 78 คน พบว่า
- ปกติ 47 ราย
- มีเชื้อรา 15 ราย
พบว่าเมื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก พบว่า มีผู้ป่วยอยู่ในระยะ 2 จำนวน 1 ราย และระยะที่ 3 จำนวน 1 ราย โดยที่ผู้ป่วยไม่ทราบมาก่อนและไม่เคยตรวจคัดกรองด้วย ทางสถานีอนามัยได้ส่งต่อไปรักษามะเร็งปากมดลูกจนหายขาด ที่สำคัญ ยังส่งผลให้สตรีกลุ่มอาชีพอื่นๆ ที่ไม่เคยตรวจมะเร็งปากมดลูกมาก่อนตัดสินใจมาตรวจมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้นซึ่งพบว่ามีสตรีในหมู่บ้าน 70 คน ร่วมโครงการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกซึ่งได้ให้ความรู้ควบคู่ด้วย
ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูล พบว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผู้ประกอบอาชีพงบหอยแครงเป็นมะเร็งปากมดลูกมากกว่าอาชีพอื่นๆ นอกจากสตรีกลุ่มนี้ จะต้องแช่น้ำเป็นเวลานาน โดยไม่สวมกางเกงใน ตั้งแต่ 05.50-15.00 น.เป็นประจำทุกวัน เพื่อแลกกับค่าแรง 250-300 ต่อวัน และน้ำในวังหอยสกปรกอย่ามากแล้ว สตรีกลุ่มนี้ยังกินยาคุมเป็นเวลานานติดต่อกันอย่างไม่ถูกต้อง โดยกินยาคุมเพื่อไม่ให้เป็นประจำเดือน คือ กินติดต่อกันโดยไม่เว้นระยะ เนื่องจากสตรีที่ประกอบอาชีพนี้มักเป็นกลุ่มคนด้อยโอกาส จึงต้องการทำงานโดยไม่เว้นวันหยุด เพราะหากหยุดหมายถึงไม่ได้รับเงินค่าจ้างที่จะนำมาใช้ในแต่ละวัน
“ได้แนะนำสตรีกลุ่มนี้ ว่า เมื่อขึ้นจากน้ำกลับบ้านให้รับรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายโดยไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาล้างช่องคลอดกับอวัยวะเพศใช้เพียงน้ำสะอาดและสบู่ก็เพียงพอแล้ว นอกจากนี้ วางแผนต่อยอดโครงการติดตามผลการเป็นมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มอาชีพดังกล่าวเป็นระยะๆ ต่อไปด้วย พร้อมกันนี้ ขอเตือนผู้ประกอบอาชีพที่มีความจำเป็นในการต้องแช่น้ำนานๆ หรือผู้ที่กินยาคุมติดต่อกันนานๆ รวมถึงผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ควรได้รับการตรวจคัดกรองเพื่อป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก” นางบุษบงก์ กล่าว

2551-09-03

กินอย่างไรให้น้ำหนักลด


เทคนิคช่วยให้ควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. กินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ และเป็นเวลา ควรงดอาหารว่างระหว่างมื้อ ถ้าหิวให้ดื่มเครื่องดื่มที่ไม่ให้พลังงาน เช่น น้ำเปล่า น้ำสมุนไพร เช่น น้ำตะไคร้ น้ำใบเตย (ไม่ต้องเติมน้ำตาล) จะลดความรู้สึกหิวลงได้
2. ห้ามงดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะจะทำให้กินมากขึ้นในมื้อต่อไป
3. ปริมาณอาหารควรจัดให้สมดุลตลอดวัน ทั้งมื้อเช้า กลางวัน และเย็น โดยเฉพาะควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารหลัง 6 โมงเย็น หรือช่วงกลางคืน
4. ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์ก็ให้พลังงานไม่น้อยเลยทีเดียว คือ 1 กรัมให้พลังงาน 7 แคลอรี่ และแอลกอฮอล์กระตุ้นให้เกิดความอยากอาหาร แอลกอฮอล์ยังให้พลังงานเพียงอย่างเดียวโดยไม่ให้สารอาหารอื่นที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเลย
5. ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองในการดื่มเครื่องดื่มโดยไม่ต้องเติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวาน เนื่องจากน้ำตาลกระตุ้นให้เกิดการรับประทานมาก เช่นเดียวกับสารที่ให้รสหวาน
6. ไม่ควรรีบกินอาหาร ควรเคี้ยวช้าๆ การกินเร็วจะทำให้กินอาหารมากเกินอัตรา
7. ควรคำนึงอยู่เสมอว่า การกินทุกครั้งไม่ใช่เพราะความอยากอาหาร แต่กินเพราะร่างกายจำเป็นต้องใช้พลังงานและสารอาหารในการดำรงชีวิต อันก่อให้เกิดสุขภาพดี
ตัวอย่างเมนูอาหารใน 1 วัน เพื่อควบคุมน้ำหนัก ลองเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย เมนูตัวอย่างนี้เพื่อให้คุณได้เลือกอาหารที่มีไขมันต่ำมาแทนอาหารที่คุณกินอยู่ประจำที่อาจมีไขมันสูงกว่า
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินเป็นสิ่งยั่งยืนที่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องของการกินอาหารควรต้องมีการยืดหยุ่นบ้าง เช่นหากมื้อใดกินมาก มื้อต่อไปต้องลดลง เพื่อให้เกิดความสมดุลของพลังงาน จะเลือกกินอะไรต้องใช้เหตุผลเหนือจิตใจ ค่อยทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่าใจร้อน ต้องใช้ความอดทน กิจกรรมประจำวันต้องกระฉับกระเฉง และควรระลึกอยู่เสมอว่า ไม่มีอาหารหรือยาชนิดใดที่สามารถลดน้ำหนักของคุณลงได้ตลอดกาล และอย่าเชื่อในสิ่งที่เหลือเชื่อ ขอจงเชื่อมั่นในตัวเองเป็นดีที่สุด

2551-08-28

เรื่องเล่าจากหญิงชรา...

วันแรกที่พวกเราเริ่มการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นอาจารย์ของเราได้เข้ามาแนะนำตัวและบอกให้พวกเราทำความรู้จักกับคนอื่นๆ ที่เราไม่รู้จักมาก่อนผมยืนขึ้นแล้วมองไปรอบๆ และมีมือๆ หนึ่ง เอื้อมมาจับบ่าของผมผมหันไปพบกับหญิงชราร่างเล็ก ผิวหนังเหี่ยวย่น ที่ส่งรอยยิ้มอันเป็นประกายมาให้ผมรอยยิ้มนั้นทำให้เธอดูสดใสอย่างยิ่ง
หญิงชราคนนั้นกล่าวขึ้นว่า"สวัสดี รูปหล่อ ฉันชื่อโรส อายุแปดสิบเจ็ดแล้ว มาให้ฉันกอดสักทีสิ"
ผมหัวเราะกับท่าทางของเธอ และตอบอย่างร่าเริงว่า"แน่นอน ได้สิครับ " แล้วเธอก็กอดผมอย่างแรง ผมถามเธอว่า"ทำไมคุณถึงมาเรียนมหาวิทยาลัย เอาตอนที่อายุน้อยและไร้เดียงสาอย่างนี้ละ.. "
เธอตอบด้วยเสียงปนหัวเราะว่า "ฉันมาหาสามีรวยๆ ที่ฉันจะได้แต่งงานด้วย แล้วมีลูกสักสองสามคน..."ผมขัดจังหวะเธอ โดยถามว่า "ไม่เอาครับ.. ถามจริงๆ " ผมสงสัยจริงๆ ว่า อะไรทำให้เธอมาเรียนที่นี่ตอนที่อายุขนาดนี้ และเธอตอบว่า"ฉันฝันมานานแล้ว ว่าฉันจะได้ปริญญา และตอนนี้ ฉันก็กำลังจะได้ปริญญาที่ฉันฝัน"หลังเลิกเรียนวิชานั้น เราเดินไปที่อาคารสโมสรนักศึกษาด้วยกัน และนั่งกินชอคโกแลตปั่นด้วยกัน เรากลายเป็นเพื่อนกันในทันทีตลอดสามเดือนหลังจากนั้น เราจะออกจากชั้นเรียนพร้อมกัน และจะไปนั่งคุยกันไม่หยุด ผมนั้นประหลาดใจเสมอเมื่อได้ฟัง "ยานเวลา" ลำนี้แบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ของเธอให้กับผม
ตลอดปีนั้น โรสได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยของเรา และเธอนั้นจะเป็นเพื่อนได้กับทุกคนในทุกที่ที่เธอไป เธอรักที่จะแต่งตัวดีๆและดื่มด่ำอยู่กับความสนใจ ที่นักศึกษาคนอื่นๆ มีให้กับเธอ เธอได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เมื่อถึงตอนสิ้นสุดภาคการศึกษา เราได้เชิญโรสให้มาพูดที่งานเลี้ยงของทีมฟุตบอลของเราผมไม่เคยลืมเลยว่า เธอได้สอนอะไรให้กับเรา ... พิธีกรแนะนำตัวเธอ และเธอก็เดินขึ้นมาที่แท่น
ตอนที่เธอกำลังเตรียมตัวที่จะพูดตามที่เธอตั้งใจนั้นเธอทำการ์ดที่บันทึกเรื่องที่เธอจะพูดตกพื้น เธอทั้งอาย ทั้งประหม่าแต่เธอโน้มตัวเข้าหาไมโครโฟนแล้วบอกว่า"ขอโทษด้วยนะ ที่ฉันซุ่มซ่าม ฉันเลิกกินเบียร์มาตั้งนานแล้วแต่วิสกี้พวกนี้มันแรงจริงๆ... ฉันคงจะเอาบทของฉันมาเรียงใหม่ไม่ทันแล้วงั้นฉันก็คงได้แค่บอกเรื่องที่ฉันรู้ให้กับพวกคุณก็แล้วกัน"
พวกเราทุกคนหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง ตอนที่เธอเริ่มต้นว่า
"พวกเราทุกคนนั้น ไม่ได้หยุดเล่นเพราะเราแก่หรอก แต่เราแก่เพราะว่าเราหยุดเล่นที่จริงแล้วมีเคล็ดลับสู่การที่จะยังหนุ่มสาวอยู่เสมอมีความสุขและประสบความสำเร็จอยู่ 4 ประการ
1) พวกคุณจะต้องหัวเราะ และมีเรื่องสนุกๆ ขำขันทุกวัน
2) พวกคุณจะต้องมีความฝัน เมื่อไรก็ตามที่คุณสูญเสีย ความฝันของคุณไป คุณจะตาย มีคนมากมายที่ยังเดินไป เดินมาอยู่ทั้งๆที่ตายไปแล้วและไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตายไปแล้ว..
3) การที่คุณ "แก่ขึ้น" กับ "เติบโตขึ้น" นั้นมันต่างกันมาก ถ้าคุณอายุสิบเก้า แล้วนอนอยู่บนเตียงเฉยๆปีหนึ่งและไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ตลอดทั้งปี คุณก็จะอายุยี่สิบถ้าฉันอายุแปดสิบเจ็ด แล้วนอนเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยตลอดทั้งปี ฉันก็จะอายุแปดสิบแปด ทุกๆ คนนั้นจะแก่ขึ้น ทั้งนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยความสามารถอะไรเลยประเด็นของการ เติบโตขึ้น นั้นอยู่ที่การแสวงหาโอกาสในการเปลี่ยนแปลง
4) อย่าทิ้งอะไรไว้ให้เสียใจภายหลัง คนสูงอายุส่วนใหญ่นั้น ไม่เสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้ว แต่มักจะเสียใจกับสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ คนที่กลัวความตายนั้น มีแต่คนที่ยังมีสิ่งที่ต้องเสียใจค้างอยู่ "
เธอจบการพูดของ เธอด้วยการร้องเพลง "The Rose" อย่างกล้าหาญและเธอได้แนะให้พวกเราทุกคนศึกษาเนื้อร้องของเพลงนั้นและเอาความหมายเหล่านั้นมา ใช้กับชีวิตประจำวันของพวกเรา
เมื่อสิ้นปีการศึกษานั้น โรสได้รับปริญญาที่เธอได้เริ่มฝันไว้เมื่อนานมาแล้ว
หนึ่งสัปดาห์หลังจบการศึกษา โรสจากไปอย่างสงบเธอนอนหลับไปและไม่ตื่นขึ้นอีกเลย นักศึกษากว่าสองพันคนไปร่วมพิธีศพของเธอ เพื่อแสดงความเคารพ ต่อหญิงชราผู้วิเศษ
ผู้ได้สอนให้พวกเขาได้รู้ ด้วยการทำให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า .......ไม่มีคำว่าสายเกินไป ที่จะเป็นทุกสิ่งที่คุณสามารถเป็นได้
เมื่อคุณอ่านเรื่องนี้จบลง กรุณาส่ง คำแนะนำอันดีเยี่ยมนี้ต่อให้กับเพื่อนและครอบครัวของคุณ พวกเขาคงจะชอบมัน
เรื่องราวเหล่านี้ส่งต่อกันมาเพื่อระลึกถึงหญิงชราที่ชื่อ โรส

จงจำไว้ว่า
"การแก่ขึ้นนั้น เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่การเติบโตขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่เราเลือกได้เราอยู่ได้ด้วยสิ่งที่เราได้รับ แต่เราจะมีชีวิตอยู่เพราะสิ่งที่เราให้ไป"

2551-08-20

"ทำไมต้องยอมแพ้"

ชายคนหนึ่งเพิ่งจะมาพูดได้ ตอนอายุ 4 ขวบ
ชายคนนั้น...เพิ่งจะมาอ่านหนังสือออกตอนอายุ 8 ขวบ
ชายคน นั้น...เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน
ชายคนนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนอาชีวะ แห่งซูริค
ชายคนนั้น...เคยถูกอาจารย์ระบุว่า "สมองช้าไม่ชอบสังคมและ ล่องลอยอยู่ในความฝันอันโง่เขลาของตัวเองตลอดเวลา

"ชายคนนั้น...ชื่อ "อัลเบิร์ต ไอสไตน์" บิดาแห่งปรมาณู

---------------------------------------------------------------



ชายคนหนึ่งเคยถูกปฎิเสธจากโรงเรียนเตรียมทหารเวสต์พอยต์
ชายคนนั้น... ลองสมัครใหม่ดูอีกที
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอีกครั้ง
ชายคนนั้น...พยายาม เป็นครั้งที่สามชายคนนั้น...ได้รับอนุญาตให้เข้าเรียน
ชายคนนั้น...ได้ เป็นทหารสมใจ
ชายคนนั้น...เข้าไปอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ สองได้สำเร็จ

ชายคนนั้น...ชื่อ "นายพล ดักลาส แมคอาเธอร์"ผู้พิชิตแปซิฟิคแห่งสงครามโลกครั้งที่สอง
--------------------------------------------------------------



ชายกลุ่มหนึ่งเป็นนักดนตรี
ชายกลุ่มนั้น...เคยถูกปฎิเสธจากผุ้บริหารคนหนึ่งจากบริษัทเดคคาเรคคอร์ต้ง
ชายกลุ่มนั้น...ถูกปฎิเสธด้วยเหตุผลที่ ว่า"เราไม่ชอบเสียงเพลงของพวกเขาและกลุ่มนักดนตรีที่เล่นกีตาร์กำลัง จะหมดสมัยแล้ว


"ชายกลุ่มนั้น...มีนามว่า "เดอะ บีเทิลส์" สี่เต่าทองแห่งตำนาน
----------------------------------------------------------------

ชายคนหนึ่ง...เป็นนักกีฬา
ชายคนนั้น...เล่นบาสเกตบอลให้กับทีมโรงเรียนมัธยม
ชายคนนั้น...เคยถูกคัดออกจากทีมโรงเรียน
ชายคนนั้น...ชื่อ "ไมเคิล จอร์แดน"หนึ่งในนักกีฬาบาสเกตบอลที่ทำเงินมากที่สุดในโลก

----------------------------------------------------------------

ชายคนหนึ่ง...เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน

ชายคนนั้น...สูญเสียความสามารถ ในการฟังลงเรื่อยๆ

ชายคนนั้น...หูหนวกสนิทเมื่อมีอายุได้ 46 ปี

ชายคน นั้น...ได้ใช้ช่วงเวลาบั้นปลายชีวิตประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุด
ชายคน นั้น...ชื่อ "ลุดวิก ฟาน บีโธเฟน" นักประพันธ์เพลงชื่อก้องโลก

-----------------------------------------------------------------



ชายคนหนึ่งสอบตกประถม 6
ชายคนนั้น...เคยมีชีวิตที่พ่ายแพ้และล้มเหลวมา ตลอด
ชายคนนั้น...ล้วนทำประโยชน์ครั้งใหญ่ๆเมื่อเขากลายเป็นผู้สูงอายุ แล้ว
ชายคนนั้น...ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่ออายุ 62 ปี


ชายคน นั้น...ชื่อ "วินสตัน เชอร์ชิล" อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
----------------------------------------------------------------



ชายคนหนึ่งเรียนปริญญาตรี
ชายคนนั้น...เคยถูกจัดให้เป็นแค่นักศึกษา ระดับกลางเท่านั้น
ชายคนนั้น...เคยสอบได้อันดับที่ 15 จากนักศึกษา 22 คนใน วิชาเคมี


ชายคนนั้น...ชื่อ "หลุยส์ ปาสเตอร์" ผู้ค้นพบวัคซีนในการรักษาโรคพิษสุนัขบ้า

----------------------------------------------------------------



ชายคนหนึ่งเป็นนักร้อง
ชายคนนั้น...เคยถูกผู้จัดการของ แกรนด์โอเลโอ เพรย์ไล่ออก
ชายคนนั้น...เคยโดนดูถูกว่า "แกมันไปไม่ถึงไหนเลยแกควร กลับไปขับรถบรรทุก มากกว่า



ชายคนนั้น...ชื่อ "เอลวิส เพรสลีย์"
----------------------------------------------------------------



หญิงคนหนึ่งเป็นนางแบบผู้เปี่ยมไปด้วยความหวัง
หญิงคนนั้น...ทำงานให้ กับบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่
หญิงคนนั้น...เคยโดนผู้อำนวยการบริษัทบลูบุ๊คโมเดลลิ่งเอเจนซี่ดูถูกว่า"เธอควรไปเรียนด้านเลขาฯหรือไม่ ก็แต่งงานเสียดีกว่า


หญิงคนนั้น...ชื่อ นอร์มา จีน เบเกอร์ หรือที่รู้จัก กันในนาม "มาริลีนมอนโร" นั่นเอง
-----------------------------------------------------------------

ชายคนหนึ่ง หลงใหลวิชาการเงินอย่างมาก
ชายคนนั้น...ยื่นใบสมัครกับ มหาวิทยาลัยธุรกิจฮาวาร์ดอันเลื่องชื่อ
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธในเวลาต่อมา
ชายคนนั้น...ไม่ยอมแพ้ เดินหน้าเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจ โคลัมเบีย
ชายคนนั้น...สำเร็จการศึกษา
ชายคนนั้น...ปัจจุบันมีสินทรัพย์ รวมกว่า 44,000 ล้านเหรียญสหรัฐจากเงินลงทุนเพียง 100 เหรียญสหรัฐ

ชายคน นั้น...ชื่อ "วอเรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนอัจฉริยะอภิมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก
----------------------------------------------------------------

ชายคนหนึ่ง หลงใหลในคอมพิวเตอร์อย่างมาก
ชายคนนั้น...ชอบหมกตัวกับ คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
ชายคนนั้น...ถูกเพื่อนมองว่า "สกปรก - บ้า คอมพิวเตอร์"
ชายคนนั้น...เคยเสนอซอฟแวร์ระบบให้กับ แอปเปิ้ล คอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...ถูกปฎิเสธอย่างไม่ใยดี
ชายคนนั้น...ปัจจุบัน คือผู้ให้การช่วยเหลือด้านเงินทุนกับ แอปเปิ้ลคอมพิวเตอร์
ชายคนนั้น...เคย ถูก ไอบีเอ็ม มองว่า "แค่เด็ก"
ชายคนนั้น...ปัจจุบันเป็นผู้นำบริษัทซอฟแวร์ ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก

ชายคนนั้น...ชื่อ วิลเลี่ยม เฮนรี่ เกตส์ ที่ สาม หรือที่รู้จักกันในนาม"บิลล์ เกตส์" ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์ มหาเศรษฐี อันดับหนึ่งของโลกผู้ถือครองสินทรัพย์กว่า 46,000 ล้านเหรียญ

--------------------------------------------------------------

"เชื่อว่าทุกคนเคยแพ้
เชื่อว่าทุกคนเคยล้มเหลว
แต่คนแพ้ไม่ใช่คนที่ ล้มเหลว
คนล้มเหลวคือ...คนที่ล้มเลิกต่างหาก"

มีเรื่องชวนขนลุกมาฝากค่ะ บรื๋อออ...

มีเรื่องชวนขนลุกมาฝากค่ะ บรื๋อออ...
คลิ๊กที่ข้อความเพื่อดูภาพจะๆ

ทีมอัพเดตบล็อก